หลังจากที่กิจกรรมใหม่ 2.8 เปิดให้เล่นครบหมดทุกส่วนเรียบร้อยแล้ว ผู้เล่นก็ต่างตอบรับกระแสดีเยี่ยม ทั้งชื่นชอบในบทเนื้อเรื่อง ปมหลังของตัวละครทั้ง 4 มากขึ้น และ การแก้พัซเซิลที่น่าตื่นเต้น
แต่กลับกันก็มีผู้เล่นไม่น้อยเลยที่ออกมาบอกว่า ผิดหวังกับกิจกรรมรอบนี้ บางคนเล่นได้แปปเดียวก็เกิดอาการ Motion Sickness เวียนหัว ปวดหัว จนอ้วกออกมาเลยก็มี
Motion Sickness คืออะไร ?
Motion Sickness คือ ภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหว เกิดจากระบบการทรงตัวของร่างกายและสมองของเราไม่สามารถปรับตัวได้ทัน สามารถเกิดขึ้นได้ทุกคน เพียงแต่บางคนเป็นน้อย บางคนเป็นหนัก หรือ บางคนอาจไม่มีอาการเกิดขึ้นเลย
หากย้อนกลับไปช่วง 1.6 ที่เป็นกิจกรรมหน้าร้อนเหมือนกัน เกิดขึ้นที่เกาะแอปเปิ้ลเหมือนกัน แต่กิจกรรมช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ช่วง 1.6 จะเป็นเหมือนแนวมาพักร้อน พักผ่อนไปกับหน้าร้อนจริง ๆ กิจกรรมก็เน้นไปทางชิล ๆ เน้นสนุก ราวกับมาพักร้อนจริง ๆ
แต่พอมา 2.8 รอบนี้ช่างไม่เหมือนมาพักร้อนเลย พลิกจากกิจกรรมชิล ๆ มาเป็นแนวเอาตัวรอด แก้พัซเซิล แก้ปริศนาต่าง ๆ ที่ชวนน่าปวดหัว รูปแบบดันที่มีการหมุนไปหมุนมา ไม่เหมือนมาเที่ยวพักผ่อนเลยแม้แต่นิดเดียว
ถึงแม้คนบางกลุ่มจะบอกว่า ‘เกมก็มีเตือนอยู่ก่อนแล้ว ทำไมยังจะฝืนตัวเองอีก’ หรือ ‘เกมมีพัซเซิลให้แก้แบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่น่าเบื่อ ทำอะไรซ้ำซาก พัซเซิลก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น ฝึกสมองดีจะตาย’ แต่สำหรับบางคนที่มีอาการ Motion Sickness ก็บอกว่า ‘ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ลิมิตของตัวเอง แต่รอบนี้มันหนักกว่ามาก เล่นแค่แปปเดียว ไม่ถึง 10 นาที ก็ไม่ไหวแล้ว’ หรือไม่ก็ ‘รอบก่อนที่มีดันเอียง ๆ หมุน ๆ แบบนี้ก็เล่นผ่านได้ไม่มีอะไร แต่รอบนี้มันหนักเกินไปจริง ๆ
ดันจุดเริ่มต้นของความเวียนหัว Kazuha เป็นตัวละครตัวแรกที่เริ่มเปิดปมเบื้องหลังของตัวเอง โดยรูปแบบดันจะเป็นบ้านทรงญี่ปุ่น แต่ความปวดหัวของดันนี้นั้น มันเริ่มมาจาก การแก้พัซเซิลที่ต้องหมุนฉากไปมา หมุนไปอีกฝั่งบ้าง หรือ ต้องหมุนไปอีกฝั่งเพื่อเก็บของมาใช้สำหรับอีกฝั่ง ยิ่งเป็นฉากบ้านญี่ปุ่นที่แบ่งเป็นห้อง ๆ แบบนี้แล้ว ยิ่งง่ายต่อการออกแบบให้หมุนไปมา เรียกได้ว่า ถ้าคนที่เป็นอาการ Motion Sickness ได้ง่ายนั้น ต้องมีชวนเวียนหัวไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
ในส่วนของการแก้พัซเซิลไม่ได้เป็นอะไรที่ยากมาก จะเป็นการหาเครื่องรางมาใส่เพื่อปลดผนึกต่าง ๆ และ พัซเซิลยิงลำแสงไปมาเพื่อปลดผนึกเอาของต่าง ๆ อาศัยการสังเกตทิศทางนิดหน่อย ก็สามารถแก้ได้ไม่ยาก
ดันของคนถัดมาเป็นของ Xinyan สำหรับดันอันนี้ถ้าเทียบกับของ Kazuha แล้วนั้น ความเวียนหัวมีน้อยกว่า เนื่องจากตัวของดันไม่มีมีการหมุนไปหมุนมาเหมือนกับของ Kazuha จะมีแค่พื้นที่เอียงเล็กน้อยแค่นั้น
ในด้านการแก้พัซเซิลนั้น ไม่ได้แตกต่างจากของ Kazuha มากนั้น มีการแก้ยิงลำแสงเหมือนกัน แต่เปลี่ยนเป็นการยิงตัวโน๊ตเพลงออกไปแทน และ กับการหาจุดแหล่งกำเนิดน้ำ ที่เรียกได้ว่า สกิลการปีนป่ายต้องมีงัดเอามาใช้กันบ้าง เพราะบางรอบก็อยู่จุดสูงสุดของหน้าผากันเลยทีเดียว (ถ้าคนที่มี Venti หรือ Kazuha ก็อาจจจะสบายขึ้น)
ดันที่ 3 เป็นดันในส่วนของ Fischl รูปแบบดันจะมาเป็นปราสาทสูงสง่า โทนมืด ในส่วนของความเวียนหัว ดันจะมีบางส่วนที่ปราสาทมีการตะแคงข้าง, เอียง หรือการหมุนของตัวปราสาท รวมไปถึงการใช้ Gaze of the Deep ที่เป็นการฉายภาพวัตถุที่เราต้องเลื่อนหาจุด ซูมเข้าซูมออก ให้ตรงกับตามที่ดันกำหนดไว้ ซึ่งในส่วนของตรงนี้เองที่มีส่วนทำให้ผู้เล่นบางคนเวียนหัวไปไม่น้อยเลยทีเดียว แถมยังจะหงุดหงิงตรงที่ เลื่อนหาจุดไม่ตรงกับภาพสักที
ส่วนของการแก้พัซเซิล ในเรื่องของความยากง่ายนั้น ไม่ได้ยากจนเกินไป แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เล่นบางคนหงุดหงิงได้นั้น คือการต้องเลื่อนหาจุดวัตถุให้ตรงกัน หรือ บางทีก็ต้องฉายภาพวัตถุจากจุดอื่นก่อนก็มี หรือ การแก้หมุนพื้นที่ให้ตรงกับเครื่องฉายภาพ บางคนเลื่อนหามาก ๆ หรือเลื่อนไม่ค่อยตรงกัน ก็คงต้องมีอาการหงุดหงิงกันบ้าง
ดันสุดท้ายเป็นดันของ Mona เรียกได้ว่าเป็นดันที่น่าจะชวนปวดหัวให้ผู้เล่นเยอะที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าเป็นการแก้พัซเซิล การต้องมานั่งหมุนหาตำแหน่งของดวงดาวต่าง ๆ เงยหน้าสุดเพื่อดูจุดดวงดาว ที่ดูแล้วช่างชวนเวียนหัวมาก ๆ ดันเดียวมีครบหมดกันเลยทีเดียว
การแก้พัซเซิลของดัน Mona ถ้าจะบอกว่ายากสุดในบรรดาทั้งหมด ก็อาจจะได้ ต้องค่อยดูตำแหน่งลากจุดดาว ว่าต้องวางตรงไหนยังไง ตำแหน่งการลากมันก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้มันยาก และ ชวนปวดหัวเลยก็คือ ต้องหมุนกล้องเงยหน้ามองตำแหน่งที่ต้องลากจุด บางอันก็มีอะไรมาบังจนเกือบจะมองไม่เห็น การที่ต้องหมุนมองบ่อย ๆ เป็นสิ่งที่อาจจะทำให้ผู้เล่นเกิดอาการ Motion Sickness ได้ แนะนำว่าให้เปิดยูทูปดูสรุปไกด์น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วล่ะนะ แต่อยากท้าทายลุยเองคนเดียวก็ย่อมได้ ระหว่างดันก็จะมีพัซเซิลเล็ก ๆ ง่าย ๆ ให้ได้เล่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการไล่ตามดาวไปตามทาง หรือ การหลบดวงดาว(ซึ่งวิธีการก็ชวนให้นึกถึงเกมสมัยเก่าอย่าง Touhou ไม่น้อยเลย)
ถึงแม้ดันจะชวนเวียนหัว พัซเซิลจะชวนให้หัวร้อน แต่ด้านเนื้อเรื่องก็ทำได้ดีไม่น้อย การได้รู้ปูหลังของตัวละคร ที่มาที่ไปของตัวละครตัวนั้นมากขึ้น หรือ แม้แต่ความคิด ทันศคติของตัวละครในเนื้อเรื่อง ก็ชวนให้อบอุ่นไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
“เสื้อผ้าทรงผม ตลอดไปจนถึงใบหน้า และร่างกาย ไม่ได้มีไว้ให้คนอื่นดูสักหน่อย สิทธิ์ของเราตัวเราชอบแบบไหน ก็แต่งแบบนั้นไปสิ” Xinyan
ท้ายที่สุดนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า กิจกรรมในรอบนี้ทำให้ผู้เล่นเกิดอาการ Motion Sickness ไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงจะมีไม่มาก แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องค่อนข้างต้องให้ความสำคัญไม่น้อยเลย ถึงแม้การเล่นแต่น้อย ๆ มันอาจจะช่วยได้ แต่สำหรับรอบนี้บางคนก็บอกว่า มันหนักกว่าจากรอบก่อนจริง ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าในอนาคตจะยังมีแบบนี้อีกไหม แถมเมืองสุเมรุก็กำลังจะเข้าต่อ ก็ต้องลุ้นว่า ปริศนาของเมืองนี้ คงไม่ยากจนเกิดไปล่ะนะ
เติมเกม Genshin Impact เติมถูก เติมไว ปลอดภัย 100% คลิก !